น้องๆน่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ว่าบางมหาวิทยาลัยให้เราเขียน SOP ด้วยตอนยื่นในรอบ Tcasport แต่เอ๊ะ! แล้วการเขียน SOP ที่ถูกต้องและเขียนอย่างไรให้ถูกใจกรรมการต้องเขียนยังไง แบบไหน ไปดูกันจ้า
Statement of Purpose หรือ SOP ก็คือการเขียนเรียงความแนะนำตัวเพื่อแสดงให้ทางคณะและมหาวิทยาลัยได้เห็นถึงเป้าหมายและทราบเหตุผลที่ต้องการเข้าเรียนในคณะสาขามหาวิทยาลัย
ในการเขียน Statement of Purpose ไม่ได้มีข้อกำหนดหรือกฏที่ชัดเจนซะทีเดียวการเขียน SOP นั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่แต่ละคนต้องการจะสื่อสารด้วย แต่สิ่งที่ควรมีในเนื้อหาควรมีดังนี้
· ควรมีการแนะนำเรื่องราวของตนเองอย่างน่าสนใจวิธีการเขียน SOP ที่ดีจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ดังนี้
1. คำนำ (Introduction)
ส่วนนี้คือส่วนที่แสดงความเป็นตัวเอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ต้องทำให้รู้สึกถูกใจและดึงความสนใจของผู้อ่านให้ได้ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกอยากอ่านส่วนอื่นต่อ
2. ส่วนเนื้อหา (Body)
Part 1: แนะนำให้รู้จักตัวตนของตัวเองความสามารถและแรงบันดาลใจในการเรียนต่อคณะสาขานั้นๆ ในการเล่าเรื่องของตัวเองน้องๆควรเล่าถึงเหตุผลว่าทำไมอะไรที่ทำให้เราอยากเรียนคณะสาขานี้ เล่าย่อๆสั้นๆให้พออ่านจับใจความสำคัญได้
Part 2: สรุปเกี่ยวกับการเรียนในระดับมัธยมศึกษา และประสบการณ์ในการ่วมกิจกรรมต่างๆในระหว่างเรียนเขียนเล่าเกี่ยวกับงานหรือกิจกรรมต่างๆที่น้องได้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นงานค่ายหรือกิจกรรมอาสาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะสาขาที่น้องๆสนใจจะเรียน
Part 3 : อธิบายโดยลงรายละเอียดถึงสาขาวิชาที่น้องๆต้องการศึกษาต่อส่วนนี้ให้น้องๆเล่าถึงคณะสาขาที่สนใจอยากเรียนต่อโดยอาจอธิบายรายละเอียดของสาขาพอที่จะโน้มน้าวใจกรรมการว่าเรานั้นมีความเข้าใจขอบเขตของสาขาวิชา รวมทั้งเข้าใจหลักสูตร แบบคนที่ทำการบ้านมาอย่างดีแสดงให้เห็นแบบเจาะจงว่าเราสนใจเรื่องอะไรในสาขาที่เราจะเรียน มีคำถาม ปัญหา หรือ topic ไหนที่เราอยากเรียนรู้เข้าใจ จุดนี้จะเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่าเรามี passion กับสิ่งที่เราอยากเรียนแค่ไหน
3. บทสรุป (Conclusion)
ควรสรุปด้วยความกระตือรือร้นและแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเรียนต่อ และความพร้อมในการเผชิญปัญหาที่อาจเจอในการเรียนต่อในคณะสาขาที่เราสนใจ
1. แสดงถึงตัวตนของเราในด้านบวก รวมทั้งแสดงความกระตือรือร้น ความรู้ความสามารถ วุฒิภาวะว่าเราเหมาะที่จะเรียนต่อคณะสาขานั้นจริงๆเพื่อให้คณะกรรมการเห็นว่าเราเชื่อมั่นว่าตัวเองจะทำได้
2. โทนของการเขียนควรดูกระตือรือร้น ใช้ Active voice เลี่ยงการใช้ Passive voice
3. ต้องเล่าเรื่องให้เห็นภาพ ไม่ใช่แค่บอกเล่าเฉยๆ แต่ต้องทำให้อ่านแล้วคล้อยตามได้จริง
4. สามารถใส่เรื่องราวส่วนตัวที่น่าใจเข้าไปได้ แต่ต้องเป็นเรื่องราวที่มีความหมาย แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของเรา หรือที่มาของแรงบันดาลใจของเรา
5. ให้แน่ใจว่าเนื้อหาใน SOP มีความเชื่อมโยง มีที่มาที่ไป และมีเหตุมีผล มีโฟกัส ไม่สะเปะสะปะกระจัดกระจาย
6. พยายามเขียนให้กระชับ ตรงประเด็น ใช้คำที่ง่ายและเห็นภาพชัดเจน ความยาวที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 1000 คำ นอกเหนือซะจากว่าทางคณะจะให้โจทย์มาว่าให้เขียนมากกว่าหรือน้อยกว่านั้น